รีวิว eSIM Klook สะดวก ง่าย แรง แค่ปลายนิ้ว

สารบัญ

• eSIM คืออะไร & ทำไมต้อง Klook eSIM?
• จุดเด่นของ Klook eSIM 
• รีวิวจากผู้ใช้จริงในกลุ่ม Facebook
• ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Klook eSIM
• Klook eSIM ใช้งานได้กับ App ไหนบ้าง?
• Klook eSIM รองรับอุปกรณ์อะไรบ้าง?
• วิธีซื้อ eSIM Klook
• ส่วนลด Klook eSIM
• วิธีเปิดใช้งาน eSIM Klook 
• คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Klook eSIM

eSIM คืออะไร & ทำไมต้อง Klook eSIM?

eSIM คือ “ซิมแบบดิจิทัล” ที่ติดตั้งลงในมือถือโดยไม่ต้องใส่ซิมจริง เมื่อซื้อออนไลน์ผ่าน Klook App (หรือเว็บ Klook) คุณสามารถเพิ่มแผนบริการอินเทอร์เน็ตให้มือถือของคุณได้ทันที พร้อมเปิดใช้งานเมื่อถึงปลายทางได้ง่าย ๆ

ถ้าคุณกำลังวางแผนไปเที่ยว ต่างประเทศ แล้วไม่อยากพะรุงพะรังกับการใช้ซิมการ์ดจริง ไมว่าจะซื้อ ติดตั้ง หรือเปลี่ยนซิมไปมา eSIM คือคำตอบที่ขาเที่ยวต่างประเทศเขาใช้กัน!

Klook มีตัวเลือก eSIM สำหรับหลากหลายประเทศ หลายแพ็กเกจ ตั้งแต่ใช้งานแบบรายวัน แบบเหมารวม (7, 15, 30 วัน) ไปจนถึงอินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัด “Unlimited/prepaid” และรองรับอุปกรณ์ที่รองรับ eSIM กว่า 100+ เครื่อง 

บทความนี้จะมาตอบคำถามที่หลายคนสงสัย เช่น eSIM Klook ดีไหม? ใช้ยังไง? แชร์ฮอตสปอตได้ไหม? และยังมีโค้ดส่วนลดสำหรับผู้ใช้ใหม่ที่ท้ายบทความอีกด้วย 🎉

ก่อนจะไปอ่านบทความเต็ม เรามีสรุปสั้น ๆ ว่าทำไม eSIM ที่ Klook จึงเป็นที่นิยมกัน

สรุปสั้น ๆ eSIM Klook ดีไหม?

ถ้าคุณอยากเปิดเน็ตทันทีหลังลงเครื่องที่ต่างประเทศ  Klook eSIM เป็นตัวเลือกที่ “ค่อนข้างครบ”  สำหรับคนเดินทางทั่วไป

จุดเด่นของ Klook eSIM 

• สะดวก ไม่มีปัญหาเรื่องซิมจริง

ไม่ต้องไปแลกซิมที่สนามบิน ไม่ต้องเสียเวลาหาร้านซิม หรือกังวลเรื่องหาย พัง หรือต้องพกหลายซิม เพราะทุกอย่างเป็นดิจิทัล ติดตั้งผ่านมือถือได้เลย 

• ตัวเลือกแพ็กเกจหลากหลาย & ครอบคลุมหลายประเทศ

ไม่ว่าคุณไปญี่ปุ่น จีน เวียดนาม เอเชีย ยุโรป หรืออเมริกา Klook มีแพ็กเกจให้เลือก ทั้งแบบวันเดียว หลายวัน หรือ Unlimited/prepaid ตามความต้องการ ครอบคลุมกว่า 100+ ประเทศ

• ติดตั้ง เปิดใช้งานง่ายและไว

หากมือถือรองรับ eSIM แค่ซื้อแล้วสแกน QR code หรือลงผ่านแอป เปิดใช้งานได้ทันทีหลังถึงปลายทาง ไม่ต้องรอ ไม่ต้องแลกซิมจริง 

• แชร์ฮอตสปอตได้ 

เหมาะกับคนที่เดินทางเป็นกลุ่ม หรือมีหลายอุปกรณ์ แค่ใช้แพ็กเกจที่รองรับฮอตสปอตก็แชร์เน็ตได้ง่าย ๆ 

• คงเบอร์หลัก และไม่รบกวนการรับ SMS / OTP

ด้วย Dual-SIM คุณยังใช้เบอร์ไทย (หรือเบอร์หลักของคุณ) ได้ตามปกติ และมี eSIM สำหรับเน็ต ซึ่งสะดวกมากโดยเฉพาะถ้าคุณต้องใช้เบอร์หลักเพื่อรับ SMS / OTP จากธนาคาร/แอปต่าง ๆ 

💬 รีวิวจากผู้ใช้จริงในกลุ่ม Facebook

ถึงแม้ผู้เขียนยังไม่เคยลองใช้ Klook eSIM ด้วยตัวเอง แต่จากที่ไปอ่านรีวิวประสบการณ์ของหลายคนในกลุ่ม “กลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น” ก็เห็นว่ามีรีวิวด้านบวกเยอะเหมือนกัน หลายคนบอกว่า Klook eSIM ใช้งานง่ายมาก ติดตั้งไว และสัญญาณดีในเมืองท่องเที่ยวหลักของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว โอซาก้า หรือเกียวโต

บางคอมเมนต์ก็รีวิวว่า

• แค่สแกน QR ก็เปิดใช้งานได้เลย
• ตั้งค่าไม่ยุ่งยาก มือใหม่ก็ใช้งานง่าย
• ใช้ Google Maps / LINE / Instagram ได้ลื่น ๆ ตลอดวัน

แน่นอนว่าก็มีบางคอมเมนต์ที่แชร์ว่า ถ้าอยู่ในรถไฟใต้ดินหรือบางโซนชานเมือง สัญญาณจะอ่อนลงนิดหน่อย แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่เจอกับเครือข่ายท้องถิ่นทั่วไป ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่จนน่ากังวล

โดยรวมจากรีวิวในกลุ่มก็ทำให้เห็นว่า Klook eSIM ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการเน็ตพร้อมใช้ทันทีหลังลงเครื่อง ใช้ง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนซิมจริง และราคาโอเค เหมาะมากสำหรับทริปที่เน้นความสะดวกเป็นหลัก

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Klook eSIM

• ต้องตรวจสอบว่า มือถือของคุณรองรับ eSIM ได้หรือไม่ (เช่น iPhone XR+, Samsung S20+, Pixel และรุ่นใหม่หลายรุ่นรองรับ)
• ถ้าแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตไม่รองรับฮอตสปอต (ซึ่งส่วนใหญ่รองรับ) ก็ไม่สามารถปล่อยเน็ตให้คนอื่นได้
• ถ้าอยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อน (เช่น ย่านชานเมือง หรือใต้ดิน) อาจเจอปัญหาเน็ตช้าได้
• ถ้าต้องการเบอร์โทรศัพท์/เบอร์ท้องถิ่น อาจต้องใช้ SIM จริง หรือแพ็กเกจที่รองรับ voice ซึ่ง eSIM ของ Klook เป็นแพ็คเกจสำหรับอินเตอร์เน็ตเท่านั้น
• สามารถกดยกเลิกได้ฟรี ภายใน 30 วัน หลังจากการจอง (หากยังไม่เปิดใช้งานเท่านั้น)

eSIM Klook เหมาะกับใคร และสถานการณ์แบบไหน

• คนเดินทางไปต่างประเทศ และต้องการเน็ตที่เสถียรและไม่ยุ่งยาก
• คนที่อยากเปิดเน็ตได้ทันทีเมื่อถึงสนามบิน หรือเมืองปลายทาง
• คนที่ต้องใช้ Google Maps / Grab / IG / TikTok ตลอดวัน
• คนที่ใช้หลายอุปกรณ์ หรือเดินทางกับเพื่อน หรือครอบครัว ถ้าเลือกแพ็กเกจที่แชร์ได้ จะคุ้มมาก
• คนที่ยังอยากเก็บเบอร์มือถือหลักไว้สำหรับ OTP รับ SMS/เบอร์ในไทย หรือธุรกรรมต่าง ๆ

Klook eSIM ใช้งานได้กับ App ไหนบ้าง?

ใช้งานได้กับทุกแอปเหมือนเน็ตปกติ เช่น:

• Google Maps
• LINE / WhatsApp / Messenger
• IG / TikTok / YouTube / Facebook
• Grab / Uber / Taxi App ในต่างประเทศ
• แอปแปลภาษา เช่น Google Translate

Klook eSIM รองรับอุปกรณ์อะไรบ้าง?

Klook eSIM รองรับหลายหลายอุปกรณ์ เช็คมือถือที่รองรับ eSIM รุ่นยอดนิยม ได้ข้างล่างนี้เลย

• iPhone XR ขึ้นไป (จนถึง iPhone รุ่นล่าสุด)
• Samsung Galaxy S20 / S21 / S22 / S23
• Google Pixel รุ่นใหม่
• Huawei / OPPO / Xiaomi บางรุ่น (ต้องตรวจสอบทีละรุ่น)

ตรวจสอบรุ่นโทรศัพท์ของคุณจากแบรนด์ต่อไปนี้

วิธีซื้อ eSIM Klook ง่าย ๆ

1. ดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอป Klook (iOS / Android) กดดาวน์โหลดแอป Klook
2. เลือกประเทศ / แพ็กเกจ eSIM ที่ต้องการ เช่น ญี่ปุ่น / จีน / ยุโรป หรือประเทศอื่น ๆ
3. ชำระเงิน หลังจากจ่ายเงินจะได้รับ QR code หรือสามารถเปิดใช้งาน หรือ Activate ผ่านแอปได้ทันที

eSIM แพ็กเกจ “รายวัน” หรือ “แบบเหมาวัน” อันไหนคุ้มกว่า?

เวลาซื้อ eSIM จาก Klook จะเห็นว่ามีแพ็กเกจหลายแบบมาก ทั้ง แบบคิดตามจำนวนวัน (Daily) หรือ แบบเหมารวมหลายวัน ซึ่งเลือกผิดอาจทำให้เสียเงินเกินจำเป็น หรือได้เน็ตไม่พอใช้ในแต่ละวัน

นี่คือวิธีเลือกแบบง่าย ๆ

แบบ “รายวัน” (Daily Data) เหมาะกับใคร?

• คนที่ต้องเปิดเน็ตทุกวัน แต่ใช้น้อย
• ใช้แค่ดูแผนที่, แชท, เช็กข้อมูลทั่วไป
• คนที่เดินทางไม่นาน เช่น ทริป 2–3 วัน
• คนที่อยากได้ “ความเร็วคงที่” ต่อวัน เช่น 1GB/วัน หรือ 3GB/วัน

ข้อดี:

• ควบคุมปริมาณเน็ตต่อวันได้
• ไม่ต้องกลัวใช้หมดตั้งแต่วันแรก
  

ข้อเสีย:

• ถ้าเป็นวันใช้งานหนัก เช่น ถ่าย Live / อัปโหลดรูปเยอะ ๆ อาจไม่พอ

แบบ “เหมาจำนวนวัน เหมาะกับใคร?

• คนที่ต้องการใช้เน็ตเยอะในบางวัน เช่น ใช้ Google Maps หนักมาก หรือทำงานออนไลน์
• คนที่ไม่อยากโดนจำกัดว่า “วันนี้ได้แค่ 1GB”
• ทริปหลายวัน (5–10 วัน)
• สาย Content Creator / แชร์ฮอตสปอตให้เพื่อนบ่อย ๆ
  

ข้อดี:

• ใช้เยอะแค่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดวัน
• เหมาะมากถ้าต้องเปิด hotspot ให้คนอื่น
  

ข้อเสีย:

• ถ้าใช้หมดเร็วก่อนทริปจบ ต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่ม

คำแนะนำเลือกแบบคุ้มสุด

• ถ้าทริป เดินเล่น เที่ยวชิล ๆ → เลือกแบบ รายวัน
• ถ้าทริป ทำงาน / ถ่ายคอนเทนต์ / ใช้ GPS หนัก ๆ → เลือกแบบรวม หรือ เหมาวัน 
• ถ้าไปหลายคน และแชร์ฮอตสปอต → ถ้าเป็นสายใช้งานหนัก หรือใช้เน็ตไม่เท่ากันในแต่ละวัน แนะนำเลือกแบบเหมาวัน เพราะความเร็วจะคงที่กว่า และไม่ต้องกลัวว่าเน็ตแต่ละวันจะหมดก่อนเวลาเที่ยวจริง

ส่วนลด Klook eSIM

🔥 ดีลพิเศษสำหรับผู้อ่าน ส่วนลด Klook eSIM 50% สูงสุด ฿99

วิธีเปิดใช้งาน eSIM Klook 

หลังจากทำการจองเรียบร้อย Klook จะส่ง QR Code สำหรับติดตั้ง eSIM มาให้ในอีเมล และในแอป คุณสามารถติดตั้ง eSIM ที่ประเทศไทยล่วงหน้าได้ โดยอินเทอร์เน็ตจะเริ่มทำงานเมื่อคุณไปถึงประเทศปลายทางแล้ว (ไม่เริ่มใช้ที่ไทย)

ก่อนเริ่มติดตั้ง 

1. ตรวจสอบว่าเครื่องรองรับ eSIM
2. เปิด Wi-Fi ให้พร้อม (เพราะการติดตั้งต้องใช้อินเทอร์เน็ต)
3. ชาร์จแบตให้เพียงพอ
4. ปิดใช้ข้อมูลมือถือ (Mobile Data) ของซิมไทยชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการโรมมิ่งผิดซิม
5. เตรียม QR Code จาก Klook

วิธีติดตั้ง eSIM สำหรับ iOS (iPhone)

eSIM เหมาะสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS 16 ขึ้นไป สามารถติดตั้งได้ตั้งแต่ที่ไทย และยังไม่เริ่มนับวันใช้งานจนกว่าจะเปิดใช้งานที่ต่างประเทศ

ขั้นตอนติดตั้ง eSIM สำหรับ IOS

1. ไปที่ Settings (การตั้งค่า)
2. เลือก Mobile Data / Cellular (เครือข่ายมือถือ)
3. แตะ Add eSIM / Add Cellular Plan (เพิ่มแผนบริการมือถือ)
4. ระบบจะเปิดกล้อง → ให้คุณ สแกน QR Code จาก Klook
5. iPhone จะแสดงข้อมูลแพ็กเกจ → กด Continue
6. รอโหลดโปรไฟล์ประมาณ 10–30 วินาที
7. ตั้งชื่อ eSIM เช่น “Klook Japan” ให้ต่างจากชื่อซิมหลักของคุณ เพื่อแยกให้แยกง่าย
8. เลือกการใช้งานซิม
   • Default line → ซิมไทย
   • Mobile Data → เลือกซิม Klook (แต่ปิด Data Roaming ไว้ก่อน)
9. ไปที่ Mobile Data Options → Roaming
   • ปิดไว้ก่อนจนกว่าจะถึงต่างประเทศ
10. ตอนนี้ eSIM ถูกเพิ่มในเครื่องเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ใช้งาน

วิธีติดตั้ง eSIM สำหรับ Android

ขั้นตอนติดตั้ง eSIM สำหรับ Android

1. เปิด Settings (การตั้งค่า)
2. ไปที่
   • Samsung: Connections → SIM manager → Add eSIM
   • Pixel: Network & Internet → SIMs → Add SIM
3. เลือก Scan QR code
4. สแกน QR Code จาก Klook
5. กด Download / Activate
6. ตั้งชื่อโปรไฟล์ เช่น “Klook Korea”
7. ตั้งค่า Data
   • Mobile Data → เลือก eSIM Klook
   • ปิด Data Roaming ไว้ก่อน
8. ติดตั้งเสร็จ แต่ยังไม่เริ่มใช้งานจนกว่าจะถึงต่างประเทศ

วิธีเปิดใช้งาน eSIM เมื่อถึงต่างประเทศ 

โทรศัทพ์ iPhone และ Android มีวิธีเปิดใช้งานเหมือนกัน

1. เปิดเครื่อง
2. ไปที่ Settings → Mobile Data / Cellular
3. เลือก eSIM ของ Klook
4. เปิด Data Roaming
5. เลือกเครือข่ายตามที่ Klook แนะนำ (เช่น NTT Docomo / KT / CSL ฯลฯ)
6. รอให้สัญญาณขึ้น (1–2 นาที)
7. เปิด Safari/Chrome ทดสอบอินเทอร์เน็ต

ข้อควรระวังสำหรับ eSIM

• บางแพ็กเกจเริ่มนับวันเมื่อ “เริ่มใช้งานครั้งแรกที่ต่างประเทศ”
• ห้ามกด Delete eSIM เพราะลบแล้วติดตั้งกลับไม่ได้
• อย่าเปิด Data Roaming ที่ไทย เพื่อป้องกันแพ็กเกจเริ่มนับวันก่อนเวลา หรือโดนค่า Roaming ซิมไทย แถมอาจส่งผลต่อการเชื่อมต่อผิดเครือข่าย
• eSIM ใช้ได้กับ 1 เครื่องเท่านั้น ย้ายไม่ได้

สรุปท้ายบทความ

โดยรวมแล้ว Klook eSIM เป็นตัวเลือกที่ “สะดวกและคุ้ม” สำหรับคนที่เดินทางต่างประเทศหลายประเทศ หรือคนที่ไม่อยากพะรุงพะรังกับซิมการ์ดจริง มันให้ความสะดวกสุด ๆ ซื้อได้ออนไลน์ ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ทันที และหลายแพ็กเกจรองรับฮอตสปอต ทําให้แชร์เน็ตกับคนอื่นได้

ข้อควรระวังคือให้ตรวจสอบว่า มือถือรองรับ eSIM และเลือก แพ็กเกจที่เหมาะกับการใช้งานจริง eSIM ช่วยให้คุณใช้เน็ตได้แบบสบาย ๆ ใช้แผนที่ ดูโซเชียล ติดต่อเพื่อน และแชร์กับเพื่อนได้อย่างไม่มีสะดุด

พิเศษให้ผู้อ่านทุกคน รับเลย! โค้ดส่วนลด Klook x iPrice Exclusive ✨ มีจำนวนจำกัด!

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Klook eSIM

1) Klook eSIM ดีไหม?

โดยรวมผู้ใช้รีวิวว่าติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และสัญญาณดีในเมืองใหญ่ เหมาะกับคนที่ต้องการเน็ตพร้อมใช้ทันทีหลังลงเครื่อง

2) Klook eSIM ใช้ยังไง?

ซื้อผ่านแอป → ได้ QR Code → สแกน → เลือกเป็น Data Line → ใช้งานได้เลย

3) แชร์ฮอตสปอตได้ไหม?

ส่วนใหญ่แพ็กเกจรองรับ แต่ควรเช็คในรายละเอียดของแพ็กเกจแต่ละตัว

4) อินเตอร์เน็ต Unlimited ของ Klook คือไม่จำกัดจริงไหม?

ส่วนใหญ่ใช้งานได้ไม่จำกัด แต่บางแพ็กเกจอาจมี FUP ลดความเร็วหลังใช้งานถึงปริมาณที่กำหนด

5) มือถือทุกรุ่นใช้ eSIM ได้ไหม?

ไม่ใช่ทุกรุ่น ต้องใช้รุ่นที่รองรับ eSIM เช่น iPhone XR+, Samsung S20+, Pixel, และ Android รุ่นใหม่หลายตัว

6) ซื้อ eSIM หรือซิมจริงแบบไหนคุ้มกว่า?

ถ้าเน้นความสะดวก eSIM คุ้มกว่า เพราะไม่ต้องเปลี่ยนซิม ไม่ต้องกลัวทำซิมหล่น และเปิดใช้ได้ทันที

ขอบคุณที่อ่านบล็อกของเรา หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังวางแผนเที่ยวต่างประเทศ หากใครอยากเช็คโค้ดส่วนลดอื่นของ Klook เพิ่มเติม หรืออยากดูว่ามีดีลไหนคุ้มสุดตอนนี้ แนะนำให้ลองดูที่ iPrice Thailand เพราะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมโค้ดส่วนลด Klook และส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำไว้ในที่เดียว เผื่อเจอโปรอื่นที่ช่วยเซฟงบในการเที่ยวได้อีกเต็ม ๆ