Rizz

Rizz ประเทศไทย – ชาร์จไฟอย่างไรช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานให้แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ

หลาย ๆ คนคงเคยประสบปัญหาเมื่อใช้งานโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตไปสักระยะแล้วแบตเตอรี่เก็บไฟไม่อยู่ หรือใช้งานไปยังไม่หมดวัน แบตเตอรี่ก็หมดเสียแล้ว ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ารู้จักใช้งานโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต รวมทั้งการชาร์จไฟอย่างถูกวิธี ซึ่ง Rizz ก็มีข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาแบ่งปันกันด้วย

• หลีกเลี่ยงไม่ให้โทรศัพท์มือถือและแบตเตอรี่ต้องโดนความร้อนสูง อย่างเช่น การทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ในรถซึ่งจอดตากแดดเป็นเวลานาน ๆ เป็นต้น เพราะความร้อนเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือเสื่อมเร็ว อุณหภูมิที่เหมาะสมและไม่ทำร้ายโทรศัพท์มือถือและแบตเตอรี่นั้นก็คือ 25 – 30 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิห้องนั่นเอง
• อย่าใช้วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วย เล่นไปด้วยจะดีกว่า เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้ตัวเครื่องต้องใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่นานขึ้น ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นด้วย
• หากต้องยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจดลดลงเหลือน้อยกว่า 40% หากเห็นพลังงานแบตเตอรี่เหลือน้อยลงประมาณ 40% แล้วก็ให้นำไปชาร์จแบตเตอรี่เลยจะดีกว่า ที่สำคัญจะต้องไม่ใช้งานหรือปล่อยให้ตัวเครื่องใช้งานแบตเตอรี่หมดจนเครื่องดับไปเลยเป็นอันขาด เพราะนี่แหละคือตัวการสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วยิ่งขึ้น
• เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มแล้ว ควรถอดปลั๊กออก เพราะการเสียบชาร์จแบตเตอรี่ไว้ตลอดแม้จะชาร์จแบตจนเต็มแล้วก็ตามนั้น จะทำให้แบตเตอรี่หมุนรอบชาร์จใหม่อยู่เรื่อย ๆ โดยไม่จำเป็น ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงไปโดยปริยาย

เทคนิคการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเร็วทันใจ

หลาย ๆ ครั้งที่คุณต้องการรีบใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ แต่การชาร์จแบตเตอรี่นั้นกลับไม่เร็วดั่งใจคุณต้องการ ทั้ง ๆ ที่ก็ใช้สายชาร์จและหัวปลั๊กที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งหากอุปกรณ์ของคุณไม่ได้มีเทคโนโลยี Fast Charging หรือการชาร์จแบบเร่งด่วนละก็ บางทีอาจต้องรอกันเป็นหลายชั่วโมงเลยทีเดียว กว่าแบตเตอรี่จะเต็ม ดังนั้นวันนี้เราจึงได้เอาเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเร็วทันใจกันไปเลย

• เปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) ขณะชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องหยุดทำงาน และหยุดการค้นหาสัญญาณ รวมไปถึงการเชื่อมต่อต่าง ๆ ทำให้ลดการใช้พลังงานของตัวเครื่อง และทำให้การชาร์จแบตเตอรี่นั้นไวยิ่งขึ้นกว่าเดิม
• เลือกใช้แต่สายเคเบิ้ลและอะแดปเตอร์ที่ได้มาตรฐาน ทางที่ดีที่สุดคือใช้แต่อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องนั่นเอง และอย่าคิดว่าการชาร์จแบตเตอรี่จากพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องดี เพราะแท้จริงแล้วการชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ตดังกล่าวจะกินเวลามากกว่าการชาร์จจากปลั๊กไฟบ้าน เนื่องจากให้กระแสไฟที่น้อยกว่ากันนั่นเอง
• หากการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ที่มากับตัวเครื่องยังไม่เร็วทันใจ คุณอาจหันไปเลือกใช้อะแดปเตอร์ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้มากขึ้นดูก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟอย่างน้อย 2 แอมป์ในการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งหากนำอะแดปเตอร์ชาร์จไฟของแท็บเล็ตไปใช้กับการชาร์จสมาร์ทโฟนที่ต้องการกำลังไฟน้อยกว่า ก็จะทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนั้นชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ไวขึ้น แต่ในทางกลับกันคือถ้าคุณเอาอะแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนไปใช้ชาร์จไฟให้แท็บเล็ต ก็จะทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ของแท็บเล็ตต้องกินเวลามากขึ้นด้วย
• ในปัจจุบันมีซอฟต์แวร์บางชนิดที่ช่วยให้การจ่ายกระแสไฟในการชาร์จแบตเตอรี่นั้นมากขึ้นได้ อย่างคอมพิวเตอร์บางรุ่นนั้นจะประกอบไปด้วยเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ที่มีการติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อช่วยให้พอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าปกติ คือ มากกว่า 5 – 0.9 แอมป์ซึ่งเป็นค่ามาตรฐาน เช่น Ai Charger ของแบรนด์ Asus และ On/Off Charge ของแบรนด์ Gigabyte เป็นต้น
• ใช้สาย USB ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB พร้อมกันได้ 2 พอร์ต ซึ่งการใช้สายเคเบิ้ลที่มีคุณสมบัติดังกล่าว จะช่วยให้การจ่ายกระแสไฟเข้าสู่ตัวอุปกรณ์ที่คุณต้องการชาร์จแบตเตอรี่ได้มากขึ้น ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเป็นไปได้อย่างรวดเร็วดังที่ใจต้องการ