เลือกซื้อลำโพงบลูทูธทั้งทีต้องให้ได้พลังเสียงที่กระหึ่มสะใจ พร้อมการพกพาที่สะดวกไปกับคุณได้ทุกที่อย่างลำโพงบลูทูธจาก D POWER เพียงคลิกที่นี่
ลิสต์ราคา D POWER ยอดนิยมปี 2021
มีให้เลือกที่ Lazada 510 บาท ไปที่ร้านค้า
D POWER ประเทศไทย – เลือกซื้อลำโพงบลูทูธให้ได้เสียงทรงพลังแบบปังสุด ๆ
ปัจจุบันนี้เราได้เห็นลำโพงหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นจากลำโพงในสมัยก่อนมากทีเดียว ยิ่งตอนนี้ลำโพงบลูทูธซึ่งเป็นลำโพงไร้สายขนาดพกพาก็กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักเสียงเพลงทั้งหลายกันเป็นอย่างมากด้วย เพราะทั้งสะดวกในการพกพา ให้พลังเสียงกระหึ่มสะใจ แถมยังเชื่อมต่อได้ง่ายแบบไม่ต้องใช้สายเคเบิ้ลให้ยุ่งยาก แต่การจะเลือกซื้อมาใช้สักเครื่องนั้นก็ต้องรู้จักเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย ซึ่ง D POWER ก็จะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธให้เหมาะแบบปัง ๆ กันไปเลย
- พิจารณาจากสถานที่และขนาดพื้นที่ในการรับฟัง ซึ่งเป็นปัจจัยแรกที่ใช้ในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธเลยก็ว่าได้ สถานที่ที่มีขนาดแตกต่างกัน รวมไปถึงลักษณะพื้นที่ปิดหรือเปิดก็เหมาะกับลำโพงบลูทูธที่แตกต่างกันไปด้วย เช่น ใช้ฟัง 1 – 2 คนในห้องขนาดเล็กจะเหมาะกับลำโพงบลูทูธไซซ์จิ๋ว, ใช้ฟัง 3 – 6 คนในห้องขนาดปานกลาง 10 – 20 ตรม. อย่างห้องนั่งเล่นในคอนโดก็ควรใช้ลำโพงบลูทูธไซซ์เล็ก, ใช้ฟัง 5 – 10 คนในพื้นที่ประมาณ 20 – 25 ตรม. ก็จะเหมาะกับลำโพงบลูทูธไซซ์กลาง, ใช้ฟัง 10 – 20 คนในพื้นที่ขนาดใหญ่หรือพื้นที่เปิดโล่งอย่างสระว่ายน้ำก็ควรใช้ลำโพงบลูทูธไซซ์ใหญ่
- การรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ คือ ต้องดูด้วยว่าลำโพงบลูทูธนั้นสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้เร็วช้าแค่ไหน ซึ่งลำโพงบลูทูธบางรุ่นก็จะรองรับการส่งผ่านข้อมูลระดับสูงอย่าง aptX Codec หรือ LDAC ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว และยังทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอีกด้วย
- ความทนทานของลำโพงบลูทูธ ก็ต้องดูด้วยเช่นกันว่าคุณจะเอาลำโพงบลูทูธนั้นไปใช้งานในลักษณะไหน ต้องเอาไปลุยนอกสถานที่หรือไม่ ซึ่งหากใช่ ก็ควรเลือกใช้ลำโพงที่มีความทนทานเป็นพิเศษสักหน่อย คือควรจะต้องมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นสักนิด เพื่อที่เวลาใช้งานจะได้ไม่ต้องกังวลว่าลำโพงบลูทูธของคุณจะเสียหาย
- ความจุของแบตเตอรี่ อย่าลืมว่าลำโพงบลูทูธนั้นเป็นลำโพงไร้สาย ดังนั้นจึงต้องอาศัยพลังงานแบตเตอรี่เป็นสำคัญ ซึ่งลำโพงบลูทูธในปัจจุบันก็มีขนาดความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกันไป โดยสามารถสแตนด์บายตัวเครื่องให้ใช้งานกันได้ตั้งแต่ 5 ชั่วโมงไปจนถึง 30 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ ก็ควรเลือกใช้ลำโพงบลูทูธที่มีขนาดความจุแบตเตอรี่มากสักหน่อยดีกว่า
- คุณภาพเสียง แน่นอนว่าเป็นจุดสำคัญในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธอยู่แล้ว โดยถ้าคุณไม่ได้มีความชอบรูปแบบเสียงใดมากเป็นพิเศษ ก็ควรเลือกลักษณะเสียงแบบมาตรฐานที่สามารถนำไปใช้ฟังเพลงได้หลากหลายสไตล์ดีกว่า โดยเลือกให้มีเสียงทุ้มนุ่มนวล มีเสียงเบสไม่แหลมเกินไป แต่ให้มีความแน่น ฟังแล้วสบายหูเป็นสำคัญ
รู้จักกับสัญญาณบลูทูธในการเชื่อมต่อลำโพงบลูทูธของคุณ
สัญญาณบลูทูธนับเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีความเสถียรและสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วกว่าการเชื่อมต่อแบบอื่น ๆ แต่รู้ไหมว่าบลูทูธก็มีหลาย class หลาก version ด้วยกัน ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ดังนั้นคุณควรจะทำความเข้าใจเรื่องบลูทูธสักนิดเพื่อที่จะได้เลือกซื้อลำโพงบลูทูธได้ตรงความต้องการของคุณ
Class ต่าง ๆ ของบลูทูธ
สัญญาณบลูทูธนั้นจะประกอบไปด้วย 4 Class ด้วยกัน ได้แก่
- Bluetooth Class 1 สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 100 เมตร มีกำลังส่งสัญญาณ 100 มิลลิวัตต์โดยประมาณ
- Bluetooth Class 2 สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 10 เมตร โดยมีกำลังส่งสัญญาณ 2.5 มิลลิวัตต์โดยประมาณ
- Bluetooth Class 3 สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 1 เมตร โดยมีกำลังส่งสัญญาณ 1 มิลลิวัตต์โดยประมาณ
- Bluetooth Class 4 สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 0.5 เมตร โดยมีกำลังส่งสัญญาณ 0.5 มิลลิวัตต์โดยประมาณ
ยิ่งระยะทางในการรับส่งสัญญาณไกลเท่าไหร่ก็จะยิ่งกินแบตเตอรี่มากเท่านั้น จึงมีความจำเป็นที่คุณจะต้องเลือกใช้ Class ให้เหมาะสมกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อใช้งานของคุณ ซึ่งหลัก ๆ แล้วสำหรับหูฟังและลำโพงบลูทูธควรใช้เพียง Class 2 ก็เพียงพอแล้ว
Version ต่าง ๆ ของบลูทูธ
เวอร์ชั่นของบลูทูธมีตั้งแต่ 1.0 ไปจนถึง 5.0 กันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละเวอร์ชั่นก็จะมีการอัพเดตเพื่อแก้ไขการทำงานของบลูทูธให้มีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น เป็นตัวกำหนดความเร็วในการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์นั่นเอง ได้แก่
- Bluetooth 0 =1 Mbps
- Bluetooth 0+EDR = 3 Mbps
- Bluetooth 1+EDR = 3 Mbps
- Bluetooth 0+HS = 24 Mbps
- Bluetooth 0 = 24 Mbps
- Bluetooth 1 = 24 Mbps
สำหรับเวอร์ชั่นที่แนะนำในการใช้งานกับลำโพงบลูทูธนั้นขอให้เป็น Bluetooth Version 4.0 ขึ้นไปดีกว่าเพราะจะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้ดี และไม่มีการดีเลย์เกิดขึ้นนั่นเอง