ดูแลเท้าของคุณเป็นอย่างดีด้วยการเลือกซื้อรองเท้าอย่างถูกวิธี พร้อมเลือกรองเท้าดีไซน์ทันสมัยจากแบรนด์ Camel พร้อมรับส่วนลดพิเศษอื่น ๆ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ลิสต์ราคา Camel ยอดนิยมปี 2021
มีให้เลือกที่ LazMall by Lazada 1,276 บาท 2,576 บาท ไปที่ร้านค้า
Camel ประเทศไทย – ควรเลือกรองเท้าวิ่งอย่างไรจึงจะดีที่สุด
รองเท้าวิ่งนั้นถือได้ว่าเป็นรองเท้าที่สำคัญอีกประเภทหนึ่งในการออกกำลังกาย และเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของนักวิ่ง เพราะไม่เพียงแค่ช่วยให้การวิ่งสบายเท้าขึ้น แต่ช่วยพยุงข้อเท้าและลดอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการวิ่งได้อีกด้วย ดังนั้นผู้ที่วิ่งออกกำลังเป็นประจำหรือกำลังเริ่มวิ่งออกกำลังกาย ควรใส่ใจในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งที่มีคุณภาพ
เรามีวิธีการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง ดังนี้
- เลือกรองเท้าเหมาะกับสภาพพื้นที่วิ่ง
- รองเท้าสำหรับวิ่งบนพื้นเรียบและพื้นดินจะมีการออกแบบพื้นรองเท้าต่างกัน
- เลือกรองเท้าเหมาะกับระยะทางที่วิ่ง
- ระยะทางที่วิ่งนั้นส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเท้าและข้อเท้า ดังนั้นรองเท้าวิ่งระยะไกลออกแบบมาเพื่อให้กระชับกับข้อเท้า พยุงและรองรับน้ำหนักกดทับซ้ำ ๆ ติดต่อกัน ส่วนรองเท้าวิ่งระยะสั้นออกแบบมาให้เหมาะกับการวิ่งแบบจ็อกกิ้ง ช่วยประคองข้อเท้าและคุมจังหวะการวิ่งทางโค้งหรือเลี้ยวให้เท้าได้รูปถูกต้อง
- เตรียมถุงเท้าสำหรับใส่วิ่งด้วย
- ถุงเท้าใส่วิ่งมีทั้งแบบข้อสั้น ข้อยาว แบบวิ่งระยะไกล และแบบช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการเสียดสี และในขณะที่ลองสวมรองเท้าวิ่งคู่ใหม่ควรคำนึงถึงความคับความหลวมที่จะเกิดขึ้นตอนสวมและไม่สวมถุงเท้าด้วย ดังนั้นการนำถุงเท้าที่ใช้จริงไปลองสวมขณะลองรองเท้าใหม่ก็เป็นทางเลือกที่ดี
- ควรรู้ลักษณะของเท้าเวลาวิ่ง
- สังเกตการวิ่งของแต่ละคนนั้น ลักษณะการย่ำเท้าหรือการเคลื่อนที่ของเท้าขณะวิ่งจะแตกต่างกัน ซึ่งสามารถบอกลักษณะการวิ่งของตนเองกับพนักขายได้เพื่อขอคำแนะนำเลือกรุ่นรองเท้าวิ่งที่เหมาะสม
- รองเท้าวิ่งไม่ใช่แฟชั่น
- หลายคนมักจะมองที่ดีไซน์ของรองเท้าหรือสีสันเป็นอย่างแรก แต่ในความเป็นจริงแล้วรองเท้าวิ่งนั้นถูกแบบมาให้มีการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการวิ่ง ซึ่งสามารถแบ่งลักษณะของรองเท้าวิ่ง ออกเป็นลักษณะต่าง ๆ ได้แก่
- Motion control running shoes ดูดซับแรงกระแทกของการวิ่ง และชะลอการเคลื่อนที่ของกล้ามเนื้อเท้าให้ช้าลง มีความทนทานสูงและน้ำหนักมากกว่าแบบอื่น
- Cushioned running shoes เหมาะสำหรับการวิ่งแบบมีการกระแทกบริเวณกลางฝ่าเท้า เพราะออกแบบเพื่อดูดซับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นบริเวณข้อเท้าขณะที่วิ่ง
- Stability running ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติในการดูดซับแรงกระแทกและมีความทนทานมาก
- Lightweight running shoes เหมาะสำหรับนักวิ่งที่เน้นความเร็ว เพราะน้ำหนักเบา ดูดซับแรงกระแทกพอสมควร
รองเท้าโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 จำพวก ดังนี้
- รองเท้าใส่เดินแบบหุ้มส้นเท้า (Low Cut) สำหรับเดินเที่ยวเวลากลางวัน เหมาะสำหรับใส่เดินแบกสัมภาระเพียงวันเดียว
- รองเท้าแบบหุ้มข้อเท้า (Approach Shoe) เป็นรองเท้าหุ้มข้อซึ่งเหมาะสำหรับใช้เดินป่า ช่วยให้คุณเดินได้อย่างสะดวก แม้ต้องรับภาระแบกน้ำหนักเยอะ ๆ ก็ตาม
- รองเท้าสำหรับเดินนอกเส้นทาง มีส่วนหุ้มถึงหน้าแข้ง เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแรง ป้องกันการกระทบกระเทือนจากพวกกิ่งไม้ใบหญ้าได้เป็นอย่างดี แต่รองเท้าจำพวกนี้จะถอดยากซักหน่อย
การเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับเท้า
ควรเลือกซื้อรองเท้าในตอนบ่าย เพราะเป็นช่วงที่เท้าของเราขยายเต็มที่ ลองใส่รองเท้าโดยไม่ใส่ถุงเท้า เลื่อนเท้าไปข้างหน้าย่อเข่าลงเล็กน้อย เอานิ้วสองนิ้วสอดเข้าไประหว่างหลังของรองเท้ากับหลังเท้าของคุณ ถ้านิ้วลงไปไม่ได้แสดงว่ารองเท้าของคุณเล็กเกินไป หรือคุณอาจจะลองรองเท้าโดยการใส่ถุงเท้าอีกคู่หนึ่งก็ได้ หลังจากนั้นก็ลองเดินรอบ ๆ ร้านดู ถ้าคุณรู้สึกว่ามีรอยย่นหรือมีความกดดันผิดปกติที่จุดไหน ก็ควรเปลี่ยนเป็นคู่อื่น
การดูพื้นรองเท้า
หากรองเท้ามีดอกลึกและแข็ง จะใช้ได้ดีในพื้นที่ที่มีดินอ่อนนุ่ม เฉอะแฉะ ริมตลิ่ง แต่จะใช้ไม่ได้กับพื้นที่แข็งหรือบนก้อนหิน ส่วนรองเท้าที่มีดอกตื้น เรียบและอ่อน ใช้ได้ดีในพื้นที่ที่แข็ง บนก้อนหิน แต่จะใช้ไม่ได้ในพื้นที่ดินนุ่มหรือริมตลิ่ง