ผู้ที่ชื่นชอบเสียงเพลง และความบันเทิงแบบจัดเต็มห้ามมองข้ามแบรนด์ดังอย่าง Behringer เป็นอันขาด เพราะมีสินค้าให้คุณเลือกมากมาย มาพร้อมเกร็ดความรู้ดี ๆ ที่คุณควรรู้ไว้ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่
ลิสต์ราคา Behringer ยอดนิยมปี 2021
มีให้เลือกที่ Lazada 15,900 บาท 19,500 บาท ไปที่ร้านค้า
iPrice ประเทศไทย – ชวนคุณมารู้จักไอเท็มเสริมความบันเทิงคุณภาพเยี่ยมมากมายจาก Behringer
ดีเจ อาชีพที่ไม่ได้อาศัยเพียงแค่ความชอบเสียงเพลงเพียงอย่างเดียว
ปัจจุบันเป็นยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสื่อความบันเทิงต่าง ๆ ก็ถูกสร้างให้มีคุณภาพสมจริงมากขึ้น สังเกตได้ง่าย ๆ หากคุณลองนำมิวสิควิดีโอเพลงเก่า ๆ ที่ย้อนหลังไปสัก 5-10 ปี มาเปิด จะเห็นได้ชัดเลยว่า ทั้งคุณภาพเสียง หรือแม้กระทั่งกราฟฟิกของภาพมันก็ต่างไปอย่างสินเชิง สำหรับอาชีพที่ต้องอาศัยเสียงเพลงเป็นตัวขับเคลื่อน เสริมทับด้วยความชอบ และไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวคงหนีไม่พ้นอาชีพดีเจ หากหลายคนมองดูการทำงานของพวกเขา อาจคิดว่าง่าย แค่ชอบเสียงเพลงก็สามารถทำเป็นงานอดิเรกได้แล้ว ความคิดนี้ก็ไม่ผิดสักทีเดียว แต่มันให้อารมณ์คล้าย ๆ กับการที่เรามองพิธีกรหรือเหล่า MC จัดรายการตามห้างสรรพสินค้าว่า เพียงพูดเชิญชวนให้คนสนใจก็จบ พูดง่าย แต่ทำยาก ถ้าอยากพิสูจน์ว่าจริงหรือเปล่า ก็ให้คุณลองจับไมค์แล้วพูดดูซิ อาการกลัวไมค์จะถามหาขึ้นมาทันที เพราะเสียงที่เราพูด กับเสียงที่ออกจากไมค์มันไม่เหมือนกันนั่นเอง ดังนั้นอาชีพเหล่านี้นอกจากความชอบแล้ว ยังต้องใช้เวลาฝึกฝนให้ชินอีกด้วย มาพูดถึงอาชีพดีเจกันต่อ ว่าทำไมอาชีพนี้ถึงได้ค่าตอบแทนดี ทั้ง ๆ ที่แค่เปิดเพลง และพูดสร้างบรรยากาศเท่านั้น แน่นอนว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น การเป็นดีเจนอกจากจะต้องรู้จักเพลงหลายแนวแล้ว ยังต้องเป็นคนมีอรรถยาศัยดีด้วย แถมยังต้องฝึกควบคุมเครื่อง Controller ไอเท็มที่ใช้สร้างความมันส์ระหว่างเล่นเพลงให้สามารถใช้งานได้ดั่งใจ หากความใฝ่ฝันของคุณคือการเป็นดีเจมือฉมัง ก่อนอื่นคุณต้องรู้จัก 4 ทฤษฎีหลักที่เรารวบรวมมาให้คุณก่อน ดังนี้
- รู้จักคีย์เพลง
- เพราะบางครั้งดีเจก็ใช่ว่าจะเปิดเพลงตามต้นฉบับที่คุณรู้จักเพียงอย่างเดียว แต่การนำเพลงนั้นมาต่อเพลงนี้ และนำเพลงนู้นมาเสริมเพลงนั้นต่างหากที่ดีเจต้องทำให้ผู้ฟังรู้สึกเสมือนมันเป็นเพลงเดียวกันมากที่สุด ก่อนที่จะทำได้เหล่าดีเจก็ต้องรู้จักคีย์เพลงซะก่อน และต้องคำนึงถึงความเข้ากันได้ของตัวโน๊ตในแต่ละเพลง หากมันโดดหรือไกลกันมากเกินไปก็ไม่ควรนำมาต่อกันให้ผู้ฟังแสลงหู แม้ความหมายของเพลงจะคล้าย ๆ กันก็ตาม
- การเลือกโหมด Major และ Minor
- ถือเป็นการสร้างไลฟ์สไตล์ของตนเองให้ผู้ฟังจดจำคุณได้ง่ายขึ้น บางครั้งการตัดเพลงมาต่อกันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงที่มีทำนองคล้ายคลึงกันเสมอไป ยิ่งถ้าคุณนำคอร์ดมามิกซ์กันได้ จะยิ่งเป็นการสร้างความแตกต่างได้แบบจัดเต็ม อาจเป็นการนำคอร์ดทาง Major ที่ให้โทนเสียงสว่าง หรืออบอุ่นมาเชื่อมต่อกับคอร์ด Minor ที่ให้ความรู้สึกหม่นหรือเศร้าก็ได้
- อย่ามองข้ามเสียงกลอง
- หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเสียงกลองก็มีคีย์เหมือนกัน ทำให้บางครั้งต่อเพลงได้ลงตัวแล้วแต่พอลองนำมาฟังกลับให้ความรู้สึกแปลก ๆ เหตุเพราะคุณลืมเปลี่ยนคีย์จากกลองนั่นเอง แม้กลองจะเป็นเครื่องดนตรีที่ทำงานใน Part Rhythm แต่จริง ๆ แล้วมันก็มีคีย์อยู่ในตัวเช่นเดียวกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ เช่น เสียง kick จะให้คีย์เสียงโทนต่ำ, เสียง Snare จะให้คีย์เสียงโทนกลาง และเสียง Hiat จะให้คีย์เสียงโทน Hi เห็นได้ชัดว่ามีคีย์เสียงเพียง 3 โทนเท่านั้นที่คุณต้องเรียนรู้จากกลอง หากอยากเป็นดีเจมือฉมังการเรียนรู้แค่นี้คงไม่ยากเกินไปหรอกจริงไหม
- แก้ไขอาการหูดับ
- มันก็จะเหมือนกับการที่คุณไม่เคยพูดหรือฟังภาษาอังกฤษจากเจ้าของภาษาแล้วอยู่ดี ๆ มีเหตุให้ต้องสนทนากันขึ้นมาคำว่า หูดับ คงเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะคุณคงแทบฟังไม่ออกเลยว่าพวกเขาพูดอะไรกันบ้าง การฟังคีย์เพลงไม่ออกก็มีอาการเหมือนกันนั่นแหละ หากคุณไม่ได้ถูกฝึกให้เป็นนักดนตรีแต่เนิ่น ๆ พอมาฟังเพลงบางเพลงที่ใช้เครื่องดนตรีหลายชนิด คีย์เพลงหลายโทน และเพิ่มเสียงปรับแต่งแบบเน้น ๆ เข้าไป คุณก็คงจับทางไม่ได้เหมือนกันว่าจะเอาเพลงนั้นมาต่อเพลงนี้ให้น่าสนใจอย่างไรดี วิธีแก้ไขคือให้คุณฝึกร้องเพลงไปด้วยไม่ใช่เปิดเพลงฟังอย่างเดียว เพราะการร้องเพลงจะช่วยฝึกให้คุณจับจังหวะของดนตรีและโทนเสียงต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เหมือนกับนักร้องที่ต้องร้องเพลงให้สอดคล้องตามเสียงดนตรีนั่นแหละ