เลือกหูฟังอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน และมารู้วิธีใช้หูฟังแบบไม่ทำร้ายหูกันดีกว่ากับ AKG แบรนด์เครื่องเสียงและหูฟังคุณภาพเยี่ยม คลิกที่นี่
ลิสต์ราคา AKG ยอดนิยมปี 2021
10 อันดับสินค้ายอดนิยม | ราคา | ร้านค้า |
---|---|---|
AKG Y50 | 3,628 บาท | Shopee |
AKG หูฟัง Samsung Galaxy S8/S8Plus/Note8 งาน Oem | 590 บาท | Shopee |
AKG Bluetooth Wireless Headphone Y500HA | 999 บาท | LazMall by Lazada |
AKG : K72 (หูฟังแบบครอบหู พร้อมไดร์ฟเวอร์ขนาด 40มม.) | 2,800 บาท | Shopee |
AKG K374UแบบมีสายIn-EarกีฬาหูฟังชุดหูฟังK374BTหูฟังบลูทูธหูฟังไร้สาย | 1,699 บาท | LazMall by Lazada |
AKG K52 | 2,439 บาท | LazMall by Lazada |
AKG Km200 ไมค์ลอยมือถือคู่ | 14,900 บาท | Soundscenter |
AKG headphones K495NC | 15,000 บาท | Munkong Gadget |
AKG Dms300M ไมโครโฟนไร้สายระบบดิจิตอลแบบมือถือ 2.4 Ghz (ประกันศูนย์ 1 ปี) | 24,000 บาท | Shopee |
AKG : Perception Wireless 45 Vocal Set Bd C1 (ไมโครโฟนไร้สายแบบไมค์เดี่ยว จากแบรนด์ ) | 8,900 บาท | Shopee |
AKG ประเทศไทย – น่ารู้เรื่องหูฟัง
อยากรู้ไหมหูฟังที่คนเราใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ทั้งสำหรับฟังเพลง หรือคุยสายโทรศัพท์นั้น มีวิธีการเลือกอย่างไร ต้องใช้แบบไหนถึงจะใช่และเข้ากับการใช้งานของคุณมากที่สุด แบรนด์เครื่องเสียงและ Hi Fi อย่าง AKG มีคำตอบมาฝากคุณในวันนี้ด้วย
เลือกหูฟังอย่างไรให้เข้าทีและเหมาะกับการใช้งาน
หูฟังได้กลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่คนใช้งานกันจนติด กลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ด้านเสียงเพลงที่จะขาดไปไม่ได้ในชีวิตเลยทีเดียว ไม่ว่าจะใช้งานระหว่างการเดินทางไปทำงาน ในระหว่างที่ทำงานในออฟฟิศ หรือในวันหยุดตอนนั่งชิล ๆ อยู่ในร้านกาแฟ ต่างก็ต้องใช้หูฟังที่ได้คุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด ซึ่งมีหลักวิธีการเลือกดังนี้
- เลือกจากความชอบในเสียง : หูฟังแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ต่างก็ให้ลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันไป การเลือกหูฟังมาใช้งานนั้นไม่ใช่เลือกจากราคาหรือแบรนด์เป็นหลัก ไม่ใช่ว่าแบบที่แพงที่สุดจะดีที่สุดสำหรับคุณเสมอไป บางทีอาจจะไม่ได้ให้เสียงในสไตล์ที่คุณชอบก็ได้ ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อคุณจะต้องลองฟังเสียงจากหูฟังนั้น ๆ เสียก่อนว่ามันได้ให้เสียงในแบบที่ถูกใจคุณหรือไม่
- ตรงกับไลฟ์สไตล์ : การเลือกหูฟังนั้นควรเลือกรูปแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณด้วย โดยดูจากว่าคุณจะนำหูฟังไปใช้งานในด้านใด หากเป็นด้านการทำงานเกี่ยวกับเสียงก็ต้องเลือกแบบโปรฯ ไปเลย แต่ถ้าเลือกไว้ใช้ในการฟังเพลงระหว่างเดินทาง อาจเลือกแบบที่พกพาง่าย มีระบบกันเสียงหรือ Noise Cancelling เป็นหลัก เป็นต้น
- ทดลองฟังเสียงจากหูฟังทุกครั้งก่อนซื้อ : โดยการติดเอาเครื่องเสียงที่ใช้ประจำ หรือเตรียมเพลงที่ชอบใส่ลงไปในสมาร์ทโฟนของคุณก็ได้ จากนั้นก็นำไปต่อเข้ากับหูฟังที่สนใจแล้วทดลองฟังเสียงได้เลย หากเพลงที่คุณเคยฟังบ่อย ๆ จนคุ้นหู เมื่อต่อเข้ากับหูฟังนั้น ๆ แล้วรู้สึกว่าเพลงเพราะขึ้น ได้ยินรายละเอียดชัดกว่าเดิม แสดงว่าหูคุณชักจะชอบหูฟังรุ่นนี้ซะแล้วละ
- ความสบายในการสวมใส่ : อย่าเน้นเฉพาะด้านเสียงของหูฟังเพียงอย่างเดียว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยก็คือหูฟังรุ่นนั้น ๆ สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายหูหรือไม่ ถ้าสวมใส่เป็นเวลานานแล้วจะรู้สึกเจ็บหูไหม ต้องเลือกให้เหมาะกับหูของคุณด้วยเช่นกัน
- การรั่วของเสียง : อีกหนึ่งสิ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย ก็คือการรั่วของเสียง ทั้งเสียงที่รั่วออกจากหูฟังออกไปข้างนอก และเสียงรบกวนจากข้างนอกที่จะรั่วเข้ามาปะปนกับเสียงเพลงที่ฟังอยู่จากหูฟังด้วย คือต้องเลือกแบบที่มีอาการรั่วน้อยที่สุด
ศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับเครื่องเสียงและ Hi Fi
นอกจากเรื่องของการเลือกซื้อหูฟังแล้ว บางทีคุณอาจจะยังไม่มีโอกาสได้ไปลองเครื่องเสียงหรือหูฟังนั้นจริง ๆ และอาศัยการอ่านรีวิวจากอินเตอร์เน็ตดูเสียก่อนเพื่อจำกัดรุ่นในการตัดสินใจให้น้อยลง ดังนั้นการรู้จักกับศัพท์ต่าง ๆ ด้านเครื่องเสียงนั้นจะช่วยคุณได้มากในการอ่านรีวิวต่าง ๆ ซึ่งมีศัพท์ที่สำคัญ ๆ ที่ควรรู้ ดังนี้
- ย่านเสียงกลาง เป็นเสียงร้องของนักร้องในเพลงนั่นเอง และอาจรวมไปถึงเสียงกลองสแนร์หรือทอม กับเสียงกีต้าร์ด้วย เสียงกลางเป็นเสียงที่อยู่ในระดับความถี่ตั้งแต่ 100 Hz ไปจนถึง 3,000 Hz หากเสียงกลางไม่ดีจะได้ยินเสียงร้องแบบขึ้นจมูกเหมือนคนเป็นหวัด เสียงอู้ ๆ ไม่ใสน่าฟัง และเสียงเพลงที่ได้ไม่มีสมดุลของเสียงเลย เสียงกลางที่ดีต้องฟังแล้วให้ความรู้สึกของเสียงร้องที่โปร่งใส ไม่อู้ น้ำเสียงสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างชัดเจน โดยไม่ไปบดบัดเสียงดนตรีอื่น ๆ ในเพลง
- ย่านเสียงสูง เป็นเสียงที่อยู่ในย่านความถี่สูงสุดประมาณ 5 KHz ขึ้นไปแต่จะไม่เกิน 20 – 25 KHz มักเป็นเสียงของฉาบ, ทรัมเป็ต, โอโบ หรือพิคโคโล่โน๊ตสูง ๆ, แซกโซโฟน เป็นต้น เสียงสูงที่ดีควรจะรื่นหู เมื่อฟังแล้วมีความคมชัด ไม่บาดหู ปลายเสียงสามารถไล่ระดับขึ้นไปได้ดี ทำให้ได้อรรถรสในการฟังเพลงมากขึ้น
- ย่านเสียงต่ำหรือเสียงเบส คือ เสียงของกระเดื่องกลองชุด หรือกีต้าร์เบส โดยมีเสียงอยู่ในช่วงความถี่ประมาณ 20 – 200 Hz สามารถแบ่งออกได้เป็น Upper Bass, Mid Bass และ Deep Bass เสียงเบสที่ดีจะต้องได้ยินเสียงตัวโน๊ตชัดเจน สามารถไล่ระดับเสียงลงไปได้ลึก โดยเสียงไม่บวมหรือไปบดบังรายละเอียดเสียงย่านอื่น ๆ นั่นเอง