หลายคนนั้นตกใจมากเมื่อรู้ว่า Hugh Hefner เจ้าของนิตยสาร Playboy ชื่อดังระดับโลกจากอเมริกาได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองตอนที่รู้ว่าลูกสาวตัวเองได้โพสต์ภาพเปลือยหรือภาพนู้ดบนนิตยสารของเขาเอง นิตยสาร Playboy จึงกลายเป็นหนึ่งในนิตยสารที่อื้อฉาวในอเมริกาพักหนึ่งในปี 2016 แต่นั่นก็เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น เพราะ Hugh Hefner ได้ออกมาโพสต์ภาพอันหวานแหววกับภรรยาวัย 30 ต้น ๆ ของเขาผ่านทวิตเตอร์ เพื่อยืนยันว่าเขายังมีชีวิตอยู่ และหลังจากนั้นไม่นานนิตยสาร Playboy ก็กลับมาโด่งดังได้และครองใจหนุ่มใหญ่หนุ่มเล็กในอเมริกาและหลายประเทศทั่วโลกซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย
เดิมทีแล้ว Playboy หรือเพลย์บอยนั้นเป็นนิตยสารสำหรับผู้ชายสุดฮอตฮิตและคอยทำให้หัวใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่กระชุ่มกระชวยกันไม่ขาดสายและไม่ว่าจะวางขายกี่เล่มก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะเนื้อหาในนิตยสารนั้นเป็นการชื่นชมความงามของสาว ๆ กล่าวถึงไลฟ์สไตล์อันหรูหรา และวิถีชีวิตของคนดังในวงการ Playboy จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ยืนหยัดมาอย่างยาวนานและเป็นที่น่าจดจำของคนทั้งโลก แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะแบรนด์ Playboy มีสินค้าไลน์ต่าง ๆ มาให้สาวกแบรนด์ทั้งหญิงและชายได้ใช้กัน ทั้ง รวมถึงสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบนิตยสาร Playboy มากเป็นพิเศษและบอกว่าตัวเองเป็นแฟนตัวจริงนั้น คุณรู้จักข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ Playboy มาก-น้อยแค่ไหน ซึ่งถ้ายังไม่แน่ใจก็มาดู 7 ข้อเท็จจริงขำ ๆ เกี่ยวกับนิตยสารชื่อดังระดับโลกแบรนด์นี้กันเลย
7 ข้อเท็จจริงสุดพีคของนิตยสาร Playboy นิตยสารสำหรับผู้ชายสัญชาติอเมริกาที่โด่งดังทั่วโลกมายาวนานที่แฟนตัวจริงควรจะรู้
- Hugh Hefner นักธุรกิจ ผู้จัดพิมพ์ และผู้ก่อตั้งนิตยสาร Playboy ชื่อดังนี้ เพิ่งจะอายุครบ 91 ปีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
- Hugh Hefner เปิดตัวนิตยสาร Playboy เล่มแรกในปี ค.ศ. 1953 และตอนนั้นเขาก็มีอายุแค่ 27 ปีเท่านั้น
- ตอนแรก Hugh Hefner เกือบจะตั้งชื่อนิตยสารว่า Stag Party อยู่แล้ว แต่โชคดีมากที่เขาดันมาค้นพบทีหลังว่ามีนิตยสารชื่อนี้อยู่แล้ว เขาเลยตั้งชื่อนิตยสารว่า Playboy หนึ่งเดือนก่อนหน้าที่จะตีพิมพ์ฉบับแรก
- ในนิตยสาร Playboy ฉบับแรกเมื่อเดือนธันวาคมปี ค.ศ. 1953 มีการถ่ายภาพปฏิทินเปลือยของ Marilyn Monroe อยู่ด้วย ซึ่งแม้แต่ละเล่มจะมีราคาแพงถึง 50 เซ็นต์หรือราว ๆ 17 บาท (ในตอนนั้นราคานี้ถือว่าแพงพอสมควร) แต่ก็ขายดีถึง 54,000 เล่มในเวลาอันรวดเร็ว
5. ผู้ที่ให้สัมภาษณ์ลงนิตยสารคนแรกคือนักดนตรีแจ๊สที่มีชื่อว่า Miles Davis ซึ่งหากใครที่ชอบฟังดนตรีแนวนี้คงจะคุ้นหูชื่อดี และบทสัมภาษณ์ของเขาก็ได้ตีพิมพ์ลงฉบับเดือนกันยายนปี ค.ศ. 1962
6. Hugh Hefner ได้เลือกกระต่ายเป็นโลโก้ของแบรนด์เพื่อสื่อถึงเรื่องน่าขันของเพศคนเรา จากนั้น Art Paul ผู้กำกับศิลป์ของ Playboy ก็ใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วโมงในการวาดโลโก้นี้ และก่อนถึงช่วงปี 1970 – 1979 โลโก้หัวกระต่ายของแบรนด์ก็เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มผู้อ่านนิตยสาร Playboy จนบางคนสามารถวาดหัวกระต่ายบนปกได้ และนั่นก็ช่วยยืนยันว่าข้อคิดที่แบรนด์ต้องการส่งต่อไปยังผู้อ่านนั้นไปถึงจุดหมาย และถือเป็นอีกหนึ่งประสบความสำเร็จของ Playboy
7. นิตยสาร Playboy ฉบับที่ขายดีที่สุดในตอนนั้นก็คือฉบับประจำเดือนพฤศจิกายนในปี ค.ศ. 1972 โดยขายได้ถึง 7,161,561 ฉบับซึ่งสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่อยู่บนหน้าปกก็คือ Pam Rawlings ส่วนรูปเปลือยกลางเล่มนั้นก็ได้นางแบบสาวชาวสวีเดนชื่อ Lena Söderberg มาถ่ายอย่างลงตัวสุด ๆ
นอกจากนี้ยังมีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอีกหนึ่งข้อ คือ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 6 ทศวรรษ แต่ Playboy ก็ยังเป็นนิตยสารผู้ชายที่มีอิทธิพลอยู่ โดยยอดขายในอเมริกาอยู่ที่ 2.6 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และเมื่อมียอดขายถล่มทลาย หลังจากนั้น 6 เดือน Playboy ก็ตัดสินใจเอาภาพเปลือยออกจากนิตยสารและเลือกที่จะไม่ลงภาพเหล่านั้นอีกในการตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2016 แต่ที่น่าแปลกใจคือยอดขายกลับพุ่งขึ้นสูงถึง 28% และทั้งหมดนี้ก็คือข้อเท็จจริงทั้งแบบขำ ๆ และน่าสนใจที่หนุ่ม ๆ แฟนตัวยงของนิตยสาร Playboy หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน