วินาทีนี้คงไม่มีเรื่องอะไรที่ฮอตและร้อนแรงไปกว่าข่าวการเปิดตัว Google Pixel 2 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Google ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็มีด้วยกัน 2 รุ่น 2 ไซซ์ด้วยกัน ได้แก่ Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL ที่พกเอาคุณสมบัติและฟังก์ชันเด็ด ๆ มาเต็มตัวเครื่อง เล่นเอาการเปิดตัวจากแบรนด์ Apple ดูจืดไปเลยทีเดียว และ iPriceThailand มีเหรอที่จะให้คุณพลาดเทรนด์สุดฮิตเช่นนี้ เราจึงได้รวมเอา 4 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนจะได้เป็นเจ้าของ Google Pixel 2 จริง ๆ ในอีกไม่นานนี้
พบกับเทคโนโลยีสุดล้ำแห่งยุคใน Google Pixel 2
1. ดีไซน์ตัวเครื่องและการออกแบบหน้าจอของ Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL
สิ่งแรกที่ใคร ๆ ก็อยากรู้ก็คือดีไซน์ตัวเครื่องและขนาดหน้าจอนั่นเอง ซึ่งสำหรับ Google Pixel 2 นั้นจะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้วซึ่งมาพร้อมกับอัตราส่วนหน้าจอขนาดใหม่ 16:9 ที่ความละเอียดแบบ Full HD ส่วน Google Pixel 2 XL นั้นจะมีหน้าจอ P-OLED ขนาด 6 นิ้วพร้อมกับอัตราส่วนหน้าจอ 18:9 ที่ความละเอียด 2880 x 1440 พิกเซล ทำให้ตัวเครื่องของ Google Pixel 2 นั้นมีความสูงขึ้นนั่นเอง ส่วนในเรื่องของดีไซน์นั้นก็ยังคงรูปแบบความทันสมัย ดูเรียบง่าย แต่ล้ำยุคเหมือนเดิม คล้าย ๆ กับรุ่นแรกที่เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว ในส่วนของวัสดุตัวเครื่องนั้น Google ได้เลือกใช้เป็นวัสดุอะลูมิเนียมผสมกระจก ที่สำคัญ Google เพิ่มฟีเจอร์พลังเสียงมาให้ดียิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งลำโพงคู่หน้ามาให้อีกด้วย
2. คุณสมบัติกันน้ำมารตฐาน IP67 และการสแกนลายนิ้วมือที่รวดเร็วและแม่นยำ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าตัวเครื่องของ Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL นั้นมีการใช้วัสดุอะลูมิเนียมผสมกระจกที่ผสานทั้งความหรูหราและความทนทานเข้าไว้ด้วยกัน และส่วนที่ต้องพูดถึงก็คือเรื่องของฟังก์ชันการสแกนลายนิ้วมือซึ่งไม่ได้อยู่ที่บริเวณหน้าจอ แต่จะอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง และทาง Google เองยังโม้ไว้อย่างดิบดีด้วยว่าตัวสแกนลายนิ้วมือของ Google Pixel เจเนอเรชั่น 2 นี้มีความรวดเร็วและแม่นยำเกินใคร รวมไปถึงมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 ที่ให้คุณได้ใช้ตัวสมาร์ทโฟนได้แบบสมบุกสมบันอย่างใจต้องการ สิ่งที่น่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่งก็คือ Google ยังไม่มีฟีเจอร์การสแกนใบหน้าหรือ Face Recognition เพื่อปลดล็อกหน้าจอ รวมทั้งยังไม่มีฟังก์ชันการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging) เหมือนกับ iPhone X หรือ Samsung Note8 และ S8 ก็คงยังต้องรอกันต่อไปซึ่งอาจจะมีมาก็ได้ในรุ่นหน้า
3. กล้องดิจิตอลบนตัวเครื่องที่ถูกยกให้เป็นกล้องสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในขณะนี้
เมื่อเปิดตัว Google Pixel 2 ขึ้นมา กล้องสมาร์ทโฟนที่ว่ากันว่าของ Samsung Galaxy Note 8 ซึ่งดีที่สุดอยู่ในขณะนั้นตกอันดับลงไปทันที เพราะตอนนี้ทาง DxOMark ได้ให้คะแนนกล้องสมาร์ทโฟนของ Google Pixel 2 มากถึง 98 คะแนนกันเลยทีเดียว นับว่าได้ก้าวขึ้นมาเป็นกล้องสมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของโลกในขณะนี้เลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะไม่ได้เลือกใช้กล้องหลังแบบกล้องเลนส์คู่ (Dual Lens) เหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ แต่ก็พกความเจ๋งมาเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8 พร้อมระบบกันสั่น OIS ที่ผสานทั้งแบบ optic และ electronics เข้าด้วยกัน (Optical + Electronic Image Stabilization) มี AR Stickers ให้ได้เล่นกับอีโมจิและคาแร็กเตอร์ต่าง ๆ บนภาพถ่ายและภาพวิดีโอ โหมด Portrait ที่สามารถทำให้ตัวแบบในภาพถ่ายนั้นโดดเด่นขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยกล้องเลนส์คู่ (หน้าชัดหลังเบลอ) ใช้เทคโนโลยี Dual-pixel Sensor ซึ่งเป็นการแบ่งความละเอียดของภาพแต่ละพิกเซลออกเป็นสองส่วน ทำให้ความคมชัดของภาพสูงขึ้น สามารถจับโฟกัสได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงต้องเป็น Google machine learning ที่จะช่วยในการประมวลผลภาพทำให้สามารถใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ในการถ่ายภาพได้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น พร้อมให้ภาพที่สวยยิ่งกว่าเดิม ส่วนกล้องดิจิตอลด้านหน้าจะมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ในด้านของการถ่ายวิดีโอสามารถรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30 fps พร้อมระบบกันสั่นและสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างดีเยี่ยม
4. ช่องเสียบหูฟังไม่มีแล้ว แต่บังคับได้ด้วยการบีบตัวเครื่อง
ก็อย่างที่คาดการณ์กันเอาไว้ว่า Google Pixel 2 นั้นคงจะตัดช่องเสียบหูฟังมาตรฐาน 3.5 mm ออกไปเป็นแน่ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่คาดเดา แต่ถึงแม้ว่าจะมีการตัดช่องเสียบหูฟังออกไป ทาง Google ก็ได้แถมหัวแปลงแบบ Type-C มาให้สำหรับใช้เสียบหูฟังตามปกติได้ ตัวเครื่องจะรองรับการเชื่อมต่อกับหูฟังแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 และ Hi-Fi Audio เพื่อสร้างอรรถรสในการฟังเพลงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ทาง Google เองยังเปิดตัวหูฟังแบบไร้สายเข้ามารองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแบบใหม่ซึ่งมีทีเด็ดที่ทำเอาใคร ๆ ต้องอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน นั่นก็คือฟังก์ชันการแปลภาษาได้แบบเสมือนจริงนั่นเอง ทีนี้คงไม่ต้องนั่งฝันว่าอยากได้วุ้นแปลภาษาของโดราเอมอนอีกต่อไปแล้ว นอกเหนือจากนั้นแล้ว จากการที่ Google ได้ทำการเข้าซื้อกิจการของ HTC ก่อนหน้า ก็ทำให้ Google ได้เลือกเอาฟังก์ชันเด็ด ๆ จาก HTC เข้ามาใส่ไว้ในตัวเครื่อง Google Pixel 2 ด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ฟังก์ชันการบีบตัวเครื่องเพื่อเรียกใช้งาน Google Assistant ขึ้นมาใช้สั่งงานและควบคุมตัวเครื่องนั่นเอง
Google Pixel 2 พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้แล้ว ซึ่งราคาคร่าว ๆ จะอยู่ที่ 649 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21,600 บาท ส่วน Google Pixel 2 XL จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 849 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 28,300 บาทนั่นเอง หวังว่าคนไทยเราคงจะมีโอกาสได้ใช้งานเจ้าสมาร์ทโฟนสุดเจ๋งจาก Google นี้กันบ้างนะ