เลือกซื้อเครื่องสแกนให้กับสำนักงานของคุณได้อย่างคุ้มค่า ใช้งานได้ตรงความต้องการอย่างแท้จริง ที่ iPriceThailand พร้อมให้คำแนะนำดี ๆ เพียงคลิกที่นี่
สินค้ามาใหม่ เครองสแกน
ประหยัดขึ้นกับคูปอง iPrice
ส่วนลด PowerBuy ส่วนลด Advice Online ส่วนลด Jib ส่วนลด BananaIT ส่วนลด JD Central ดูร้านค้าอื่นๆ >ลิสต์ราคา เครื่องสแกน ยอดนิยมปี 2021
10 อันดับสินค้ายอดนิยม | ราคา | ร้านค้า |
---|---|---|
Fujitsu Fi-7160 | 18,890 บาท | Lazada |
Fujitsu ScanSnap iX500 | 3,104 บาท | LazMall by Lazada |
Brother ADS-3600W | 33,790 บาท | Shopee |
Canon CanoScan LiDE 120 | 1,890 บาท | Lazada |
Epson V370 | 10,100 บาท | Lazada |
Brother ADS-2400N | 22,960 บาท | Lazada |
HP Scanjet Pro 3000 S3 Sheet-feed Scanner | 16,155 บาท | invadeIT |
Fujitsu ScanSnap SV600 | 20,900 บาท | Shopee |
Brother ADS-1600W | 12,490 บาท | invadeIT |
Canon CanoScan LiDE 220 | 3,100 บาท | Lazada |
iPrice ประเทศไทยพาคุณเลือกซื้อเครื่องสแกนที่ใช่และตอบโจทย์ความคุ้มค่าเพื่อสำนักงานของคุณ
สำหรับการทำงานในสำนักงาน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือต้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานให้ครบพร้อม จึงจะสามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสแกน เครื่องถ่ายเอกสาร โทรศัพท์ ฯลฯ อย่างเครื่องสแกนก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานที่มีความจำเป็นและยังช่วยประหยัดทรัพยากรรวมไปถึงพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสารในสำนักงานได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานมาใช้แต่ละชิ้นต่างก็ต้องคำนึงถึงงบประมาณด้วย ดังนั้นความคุ้มค่าจึงต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อจะเลือกซื้อเครื่องสแกนสักเครื่อง ซึ่งวันนี้ iPriceThailand ก็มีข้อมูลดี ๆ ในการเลือกซื้อเครื่องสแกนให้เหมาะและคุ้มสุด ๆ มาฝากคุณด้วย
ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเมื่อจะซื้อเครื่องสแกนสักเครื่อง
- ความคมชัด (Resolution) เป็นความละเอียดในการสแกนภาพหรือเอกสาร ซึ่งจะมีหน่วยเป็น dpi เมื่อจะพิจารณาเลือกซื้อเครื่องสแกนสักเครื่องต้องดูที่ตัวเลขความคมชัดเป็นหลัก เช่น 300 x 1200 dpi เน้นที่ตัวเลขชุดแรกซึ่งเป็นจำนวนเซ็นเซอร์หรือตัวตรวจจับสัญญาณำภาพที่อยู่บนหัวสแกน ยิ่งตัวเลขมาก ภาพสแกนที่ได้ก็จะคมชัดขึ้นด้วย หากจะใช้สแกนภาพลงเว็บไซต์ใช้ 150 dpi ก็พอ แต่ถ้าจะนำไปใช้พิมพ์ออฟเซ็ตด้วยควรเลือกให้มีค่า 300 dpi ขึ้นไป และถ้าจะนำไปสแกนสไลด์หรือนำไปทำภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่แล้วละก็ต้องเลือกให้มีค่า 600 dpi ขึ้นไป
- จำนวนสีที่สแกนได้ ซึ่งจะมีหน่วยเป็น bit ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณว่าต้องการสีมากน้อยเพียงใด หากเป็นการสแกนภาพตามปกติ หรือเพื่อเก็บเอกสารไว้ในคอมพิวเตอร์ ใช้เพียง 24 bit ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าใช้สแกนสไลด์หรือฟิล์มเนกาทีฟที่ต้องการความคมชัดและการกระจายแสงสีที่มากขึ้นก็ควรเลือกซื้อเครื่องสแกนที่มี 30 bit ขึ้นไป
- ความเร็วในการทำงานของเครื่องสแกน คือต้องมีความเร็วในการเชื่อมต่อซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้ระบบเชื่อมต่อเป็นแบบใด ในปัจจุบันมีพอร์ตเชื่อมต่ออยู่ทั้งหมด 3 ระบบด้วยกัน ได้แก่ แบบ parallel ที่มีราคาถูก มีความเร็วปานกลาง ส่งข้อมูลได้ค่อนข้างช้า อีกแบบหนึ่งคือแบบ USB มีความสะดวกมากในการติดตั้ง เชื่อมต่อได้เร็ว เป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แบบสุดท้ายคือแบบ SCSI สามารถส่งผ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับการใช้สแกนข้อมูลจำนวนมาก หรือการสแกนภาพกราฟิกคุณภาพสูง อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยก็คือความเร็วในการอ่านข้อมูลมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ CCD ซึ่งต้องใช้ตัวแปลงสัญญาณจากอนาล็อกไปเป็นดิจิตอล กับแบบ CIS ที่จะมีตัวแปลงสัญญาณติดตั้งอยู่ภายในอุปกรณ์เลยแต่คุณภาพในการสแกนก็จะด้อยกว่า
- โปรแกรมที่รองรับ ที่สำคัญซึ่งจะขาดไปไม่ได้เลยก็คือโปรแกรม OCR ที่ช่วยในการสแกนข้อความเพื่อนำไปจัดเก็บเป็นไฟล์เอกสารซึ่งสามารถแก้ไขได้
- คุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ แล้วแต่ความสะดวกในการใช้งานและงบประมาณของคุณ อาจจะเป็นเครื่องสแกนแบบมัลติฟังก์ชันที่สามารถใช้งานทั้งสแกนเอกสาร ถ่ายเอกสาร ส่งแฟกซ์ได้ในเครื่องเดียวอย่างนี้ก็มีเช่นกัน แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย